ไข้หวัดใหญ่ โรคที่มากับหน้าฝน

ไข้หวัดใหญ่ โรคที่มากับหน้าฝน

          ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา โดยมีผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง เชื้อไข้หวัดใหญ่สามารถแพร่กระจายได้ง่าย ไม่ว่าใครก็สามารถติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ และสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี โดยไข้หวัดใหญ่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิต และความเจ็บป่วยจำนวนมาก มีการพบผู้เสียชีวิตทั่วโลก ประมาณ 250,000 - 500,000 รายต่อปี

          ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่มักเกิดในช่วงฤดูหนาว โดยเชื้อไวรัสก่อโรคพบมากที่สุด 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A 2 สายพันธุ์ (AH1N1, AH3N2) สายพันธุ์ B 2 สายพันธุ์ (Yamagata และ Victoria) เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ทั้งสายพันธุ์ A และ B จะมีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาสายพันธุ์ ตลอดเวลา จึงเป็นเหตุให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อทุกปี

          อาการไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว เหนื่อย ไอแห้ง ๆ เจ็บคอ มีน้ำมูก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อไข่หวัดใหญ่เป็นพิเศษ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป สตรีตั้งครรภ์ โดยอาจเกิดอาการแทรกซ้อนในผู้ป่วยกลุ่มนี้ เช่น การติดเชื้อในหูและไซนัส หลอดลมอักเสบ ปอดบวม ปอดอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หัวใจวาย
ทั้งนี้ ผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่อาจทำให้แย่ลง เช่น ภาวะหัวใจวาย หอบหืด เบาหวาน ดังนั้น การเป็นไข้หวัดใหญ่ในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงอาจทำให้เสียชีวิตได้

          การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ส่วนใหญ่จะหายเอง หากมีอาการไม่มากอาจจะดูแลเองที่บ้านและรักษาตามอาการ เช่น เมื่อมีไข้สูงให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว และใช้ยาลดไข้พาราเซตามอล หลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่มแอสไพริน หรือถ้ามีน้ำมูกให้ใช้ยาลดน้ำมูก และยาละลายเสมหะ ดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารอ่อน ๆ และให้นอนพักมาก ๆ ไม่ควรออกกำลังกาย (ข้อมูลจาก www.bangkokhospital.com) ในผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) และผู้ที่มีภาวะบกพร่องทางภูมิคุ้มกัน แพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันและรักษาอาการป่วย (ข้อมูลจาก www.honestdocs.co)

          การป้องกัน ในเบื้องต้นควรปิดปาก จมูกเมื่อป่วย ไอ จาม สวมหน้ากากปองกันโรค ล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้มีอาการป่วย หยุดพักอยู่กับบ้านเมื่อป่วย และที่สำคัญฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ได้ที่โรงพยาบาลตามที่มีการประกาศ ทั้งนี้ ควรฉีดวัคซีนก่อนช่วงที่จะมีการระบาดของโรค ในประเทศไทยควรฉีดระหว่างเดือนมกราคม - มิถุนายนของทุกปี โดยร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันโรคหลังการฉีดวัคซีน 2 สัปดาห์ จำเป็น
ต้องฉีดวัคซีนทุกปีเนื่องจากเชื้อไข้หวัดมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ที่ระบาดและวัคซีนจะสร้างภูมิคุ้มกันโรคไวรัสไข้หวัดใหญ่ เฉพาะสายพันธุ์ที่ฉีดได้ประมาณ 1 ปีเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องฉีดวัคซีนปีละครั้ง ทั้งนี้ วัคซีนจะได้ผลในการป้องกันโรคประมาณ 70 - 90% แต่ในผู้สูงอายุการตอบสนองต่อวัคซีนจะน้อยลงเนื่องจากความต้านทานของร่างกายน้อยกว่าปกติ

          มา “สุขใจเพราะเราเลือกดูแลกัน” ด้วยการรู้เท่าทัน “ไข้หวัดใหญ่ โรคที่มากับหน้าฝน” เมื่อไอให้นึกถึงเฟลมเม็กซ์ และเมื่อรู้สึกระคายเคืองในลำคอให้นึกถึง Flemomile สเปรย์สำหรับช่องปากและลำคอนะคะ