พ่อแม่ทะเลาะกัน ให้คิดถึงลูกด้วย เมื่อลูกเห็นการทะเลาะกันของพ่อแม่ มันส่งผลกระทบจิตใจลูกมากกว่าที่คิด ถึงแม้การทะเลาะกันจะจบสิ้น แต่ความทรงจำอันเลวร้ายมันยังฝังในใจลูก และนี่คือ 5 ข้อยอดฮิตที่พ่อแม่มักหลงลืม เมื่อมีข้อโต้แย้งหรือทะเลาะกัน 1. ใช้ความรุนแรง หลาย ๆ คู่ใช้อารมณ์ร้าย ใช้กำลังความรุนแรง ทำลายข้าวของ ขว้างปาสิ่งของ บางคนหนักถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันต่อหน้าลูก หัวใจดวงน้อย ๆ เกิดมาพร้อมความสดใส หมดไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบที่พ่อแม่ใช้ความรุนแรง 2. ใช้คำหยาบคาย แบบอย่างที่ไม่ดี สอนลูกเท่าไหร่ ลูกก็ไม่ฟัง ลูกซึมซับพฤติกรรม คำพูด โดยตรงจากพ่อแม่ และส่วนมากคำหยาบคาย มักจะออกมาตอนที่พ่อแม่ทะเลาะกันนี่แหละคะ เช่น กรู มรึง แมร่ง เซี้ย สัด อิ ไอ่ ค-ย ฯลฯ (น่าจะพอเดากันออก) ระวังดี ๆ นะคะ อย่าให้สวนสัตว์มาเดินทั่วบ้านตอนทะเลาะกันหละ ^____^ 3. ประชดกันผ่านลูก ข้อนี้หลาย ๆ คนลืมบ่อย เมื่อเวลาทะเลาะกัน มักจะใช้ลูกเป็นเครื่องมือในการประชดกัน เช่น ต่อไปนี้ลูกไม่ต้องขอซื้ออะไรแล้วนะ พ่อมันเอาเงินไปกินเหล้าหมดแล้ว วันนี้ลูกไม่ต้องไปโรงเรียนแล้วนะ พ่อมันตื่นสาย ไม่มีใครไปส่งหรอก พ่อเค้าไม่รักลูกแล้วนะ นู้นเค้าสนใจเมียใหม่เค้านู้น !!! จุดประสงค์ที่แท้ของคุณคือ ประชดใส่อีกฝ่าย โดยใช้ลูกเป็นตัวกลางในการส่งผ่าน แต่คุณลืมนึกถึงตัวกลางที่ไร้เดียงสา ลูกยังเด็ก ยังไม่เข้าใจว่ามีจุดประสงค์แฝง 4. พูดถึงอีกฝ่ายในที่ไม่ดี หลาย ๆ ครั้งที่การโต้แย้งยังสรุปไม่ได้ อารมณ์ยังคงโกรธเคืองกันอยู่ เวลาพูดถึงอีกฝ่าย ก็จะพูดถึงในทางไม่ดี เช่น พ่อแกหนะ ห่วย !!! แม่แกหนะ โง่ !!! พ่อแกนี่ นิสัยต่ำทรามที่สุด !!! แม่แกนี่ งี่เง่ามากเลย !!! ไม่ว่าฝ่ายไหนจะถูก หรือฝ่ายไหนจะผิด สำหรับลูก ลูกรักคุณทั้งคู่ ดังนั้น เวลาที่คุณพูดโจมตีอีกฝ่ายในทางไม่ดีมันก็เหมือนการทำร้ายจิตใจลูกตรง ๆ นั่นแหละ 5. ขู่ลูก เหตุการณ์นี้มักจะเกิดบ่อย ๆ ในกรณีที่มีการทะเลาะกันรุนแรง หาข้อตกลงกันไม่ได้ เช่น ถ้าแกเป็นแบบแม่แกนะ ฉันจะตบให้ตายเลย !!! ถ้าลูกขี้เมาแบบพ่อนะ ฉันจะไล่แกออกบ้านอีกคน !!! ถ้าแกร้องไห้อีก ฉันจะขังแก ไว้กับแม่แก !!! โหดร้ายจังเลยค่ะ การพูดข่มขู่ลูก ไม่ว่าจะกรณีไหน ๆ ก็ไม่ควรทำ จิตใจที่โดนทำร้าย เป็นอะไรที่กู้คืนไม่ได้นะคะ ต่อให้มีเรื่องดีเข้ามาชดเชย ก็ไม่อาจลืมเรื่องร้ายได้ แม่อ้อเป็นคนนึงคะที่ซีเรียสมากเรื่องนี้ เพราะแม่อ้อโตมาแบบที่เจอมาทุกข้อ และเพราะโดนมากับตัว เลยรู้ว่าเด็กจะรู้สึกแบบไหน แม่อ้อเลยไม่ทำทุกข้อที่กล่าวมาเบื้องต้นเลย สิ่งที่แม่อ้อทำเมื่อมีข้อโต้แย้งกันกับสามีทางที่ดีที่สุด คือ เลี่ยงการให้ลูกอยู่บริเวณนั้น ๆ 1. กรณีแค่งอนกันเล็ก ๆ น้อย ๆ หาที่คุยกันส่วนตัว โดยไม่มีลูกอยู่บริเวณนั้น ๆ เลย แล้วคุยกันแค่พอได้ยินกันแค่ 2 คน เช่น หลังบ้าน หลังครัว ในรถ ฯลฯ 2. กรณีที่คิดว่าอาจจะเพิ่มความรุนแรง เราจะเปลี่ยนที่คุยใหม่ เอาให้ไกลพอที่ลูกจะไม่ได้ยินหรือไม่ได้เห็นว่าเราทะเลาะอะไรกัน แล้วถ้าลูกรู้หละว่าเราทะเลาะกัน หรือเราดันระเบิดอารมณ์ใส่กันแล้วหละ ทำยังไง ? 1. หลังจากที่ทะเลาะกันเสร็จ ไม่ว่าจะได้ข้อสรุปหรือไม่ก็ตาม เราจะเคลียร์ความรู้สึกลูก ให้ลูกสบายใจว่าพ่อกับแม่แค่ไม่เข้าใจกัน อาจมีข้อโต้แย้งกันบ้าง เราสองคนยังรักกันอยู่ ลูกไม่ต้องห่วงนะ ทำให้ลูกรู้ว่าการโต้แย้ง ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย คนเราอาจโต้แย้งกันได้ เพื่อปรับตัวหากัน 2. เราจะไม่พูดถึงอีกฝ่ายในทางที่แย่ แม่อ้อจะบอกกับลูก ๆ เสมอ คนเราไม่ได้เกิดมาพร้อมกับความสมบูรณ์แบบ คนหนึ่งคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ถึงแม้ว่าวันนี้อีกฝ่ายอาจจะมีเรื่องแย่บ้าง แต่เรื่องอื่น ๆ อีกฝ่ายก็ดีมาก ๆ เลย เช่น .... (ก็ยกตัวอย่างเรื่องดี ๆ ออกไป) รักษาทัศนคติที่ดีของลูกไว้ 3. ไม่ใช้กำลังความรุนแรงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกับสิ่งของหรือการทำร้ายร่างกายกัน 4. ไม่ใช้คำพูดหยาบคายทุกชนิด 5. ขอโทษลูก หากการโต้แย้งทำให้ลูกตกใจ ดึงลูกมากอดทุกครั้ง เรียกขวัญกำลังใจลูกกลับมา พ่อแม่คือโลกทั้งใบของลูก คุณมีเรื่องทะเลาะกัน...ก็ทะเลาะกันไป อย่าดึงลูกน้อย ไร้เดียงสาไปยุ่งเกี่ยว ทุกครั้งที่คุณทะเลาะกัน ลูกจะรู้สึกสับสน เคว้งคว้าง จิตใจหดหู่ เกิดเป็นความรู้สึกไม่มั่นคง อย่าทำลายลูกด้วยอารมณ์ร้าย ๆ ชั่ววูบเลยนะคะ เอาใหม่นะ...ก่อนทะเลาะกันให้คิดถึงลูกก่อน !!! เครดิต เพจดูลูกคิด ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Line: Club คนรักสุขภาพ |
Home >> |
พ่อแม่ทะเลาะกัน ให้คิดถึงลูกด้วย |
|
|