เล่น Facebook ให้สุข No! ดราม่า

          ทุกวันนี้หลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า โลกของ Social Media เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตเรามาก โดยเฉพาะ “Facebook” ตั้งแต่ตื่นนอน เราก็ต้องเปิดมือถือมาอัพเดทข่าว กวาดมือสไลด์ไปมาใน Facebook จะทำงาน หรือกลับบ้าน ยังไม่วายต้องเช็ค Facebook อีก เรียกได้ว่าเราอยู่กับ Facebook ทั้งวันทั้งคืนเลยนะคะ และจาก Social Bakers เว็บไซต์จัดอันดับและเก็บสถิติต่าง ๆ บน Social Media พบว่า กรุงเทพฯ ติดอันดับ 1 ของเมืองที่มีผู้ใช้ Facebook มากที่สุดในโลก (จำนวน 12.8 ล้านบัญชี) โอ้โห..เราติด Facebook กันมากจริง ๆ

          และในทุก ๆ วันที่เราเลื่อนดู Facebook ก็จะเห็นภาพของดารา เซเลบ หรือแม้กระทั่งเพื่อน ๆ ของเรา มีชีวิตที่สวยหรู ดูเพอร์เฟคอะไรปานนั้น เช่น ภาพการกินอาหารมื้อแพง ๆ ในภัตตาคารหรู ภาพการไปเที่ยวสถานที่ดัง ๆ ในต่างประเทศ ทำให้หลาย ๆ คนมานั่งคิดว่าทำไมชีวิตเราถึงไม่เป็นแบบนั้นบ้าง พาลเกิดอาการจิตตก หดหู่ หรือถึงขั้นอิจฉาริษยาเป็นใจเริงจากละครดังขึ้นมาซะงั้น แล้วจะห้ามใจไม่ให้รู้สึกแบบนี้ยังไงดีล่ะ เรามาคุยกันถึงเรื่องการเล่น Facebook อย่างมีความสุขกันดีกว่า

          จากแง่คิดของอดีต ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ให้ความเห็นว่า “Facebook เป็นแค่เพียงฉากหนึ่งฉากของวิถีชีวิตคนคนนั้นที่ถูกเลือกนำเสนอในด้านดี แต่ยังมีอีกหลายมิติที่เขาไม่ได้นำเสนอ ซึ่งบางเรื่องอาจจะเป็นชีวิตปลอม ๆ ที่สร้างขึ้นมาก็ได้ ที่สำคัญผู้ใช้ต้องหนักแน่น และมีภูมิคุ้มกันที่ดี ไม่ใช่เอามาคิดมากจนทำร้ายตัวเอง”

          ส่วนทางด้านนักวิจัยสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล พูดไว้ว่า “คนเล่นต้องรู้จักเคารพตัวเองให้เป็น การไปมองชีวิตคนอื่น และนำมาเปรียบเทียบกับตัวเราจะยิ่งทำให้ทุกข์เปล่า ๆ แต่ควรทำความเข้าใจเสียใหม่ว่า ทุกคนก็มีชีวิตทั้งด้านที่ดีและไม่ดี”
(ข้อมูลจาก ASTVผู้จัดการรายวัน วันที่ 17 มีนาคม 2556)

          แม้ว่าเราหลีกเลี่ยงการเล่น Facebook ไม่ได้ แต่เราสามารถทำให้การเล่น Facebook เป็นเรื่องที่มีความสุขได้  เพียงเข้าใจหลักพื้นฐานที่ว่า ทุกชีวิตย่อมมีทั้งด้านดีและด้านร้ายปะปนกันไป เพียงแต่หลาย ๆ คนมักเลือกเฉพาะด้านดี ๆ มาโพสต์ให้เห็นบนโลกออนไลน์ ดังนั้น ถ้าเราเล่น Facebook โดยมองโลกตามความเป็นจริง ประกอบกับการรู้จักไตร่ตรอง พิจารณาเนื้อหาหรือภาพต่าง ๆ อย่างรู้เท่าทัน และไม่เผลอใจโดยเอาชีวิตจริงของเรา ไปเปรียบเทียบกับชีวิตที่แสดงเฉพาะด้านดี ๆ โดยไม่รู้ว่าชีวิตจริงของเขาเป็นเช่นไร การเล่น Facebook ก็อาจไม่เป็นเรื่องทุกข์อีกต่อไป

          นอกจากนี้ การใช้ Facebook ในการแชร์เรื่องราวดี ๆ ข่าวสารเกี่ยวกับการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เรื่องราวอบอุ่นหัวใจ หรือเรื่องที่เป็นกำลังใจให้แก่ผู้อื่น ยิ่งทำให้การใช้ Facebook มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น

          สุดท้ายอยากจะฝากให้แบ่งเวลาในการเล่น Facebook ให้พอดีนะคะ เพราะการที่เราใช้เวลากับสิ่งเหล่านี้มากเกินไป ก็อาจไปกระทบกับชีวิตในด้านอื่น ๆ ได้เหมือนกัน ออกไปทานข้าวกับครอบครัวบ้าง หรือจูงมือไปเที่ยวกับคนที่เรารัก ดีกว่าการเจอกันผ่านโลกออนไลน์อย่างเดียวนะคะ

By ปังปอนด์