เจ็บคอ คออักเสบ ภาวะติดเชื้อ ดูแลตัวเองอย่างไรดี

เจ็บคอ คออักเสบ ภาวะติดเชื้อ ดูแลตัวเองอย่างไรดี

          ช่วงปลายฝนต้นหนาวในเดือนตุลาคม ที่มีสภาพอากาศแปรปรวนจากฝนที่โปรยปรายลงมา และจากลมหนาวที่กำลังมาถึงในอีกไม่นานนี้ คงไม่แปลกอะไรที่ร่างกายเราจะปรับตัวตามสภาพอากาศไม่ทัน จนมีอาการไอ เจ็บคอ คออักเสบและมีภาวะติดเชื้อในคอ และตามมาด้วยไข้หวัดและอาจมีโรคในระบบทางเดินหายใจตามมา แต่ถ้าเรามีวิธีดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ก็คงจะดีไม่น้อย 
เลยใช่ไหมคะ เรามาทำความรู้จักกับอาการคออักเสบและวิธีดูแลตนเองง่าย ๆ กันดีกว่าค่ะ

           อาการของคออักเสบ 
          บริเวณที่เป็นคออักเสบ จะอยู่ระหว่างหลังโพรงจมูกกับกล่องเสียง โดยเชื้อที่ทำให้เกิดอาการอักเสบนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น
          1. คออักเสบจากเชื้อไวรัส ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่จะไม่เจ็บตอนกลืน ผนังคอหอยอาจมีอาการแดงเล็กน้อย หรือไม่ชัดเจน ร่วมกับการเป็นหวัด นํ้ามูกไหล ไอ เสียงแหบ มีไข้ต่ำ ๆ ปวดศีรษะเล็กน้อย ตาแดง บางรายอาจมีอาการท้องเดินหรือถ่ายเหลวร่วมด้วย
          2. คออักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอมาก จนกลืนนํ้า และอาหารลำบาก ผนังคอหอย หรือเพดานอ่อนมีอาการแดงจัด และบวม มีจุดหนองที่คอหอย มักไม่มีนํ้ามูกไหล ไอ หรือตาแดง แบบการอักเสบจากไวรัส แต่จะมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร อาจพบต่อมนํ้าเหลืองโตได้ บางรายอาจมีอาการปวดท้องหรืออาเจียนร่วมด้วย

           เมื่อป่วยเป็นคออักเสบ ผู้ป่วยควรดูแลตัวเองในเบื้องต้น ดังนี้
          1. น้ำเปล่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากเวลาที่เจ็บป่วยหรือมีอาการระคายเคืองและอาการอักเสบ เพราะการดื่มน้ำอย่างเพียงพอช่วยให้ร่างกายของคุณชุ่มชื้นและสามารถต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียและสารก่ออาการภูมิแพ้ นอกจากนี้ยังช่วยรักษาอาการไข้หวัดได้อีกด้วยล่ะ โดย 
ในช่วงที่มีอาการเจ็บคอก็ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำอุ่นเพียงอย่างเดียวแต่ยังสามารถดื่มน้ำผลไม้ที่ไม่ค่อยมีน้ำตาล หรือน้ำซุปไก่ก็ได้ค่ะ

           2. หลีกเลี่ยงควันและมลพิษต่าง ๆ ควรงดสูบบุหรี่ รวมทั้งสารระเหยจากน้ำยาทำความสะอาดในบ้าน หรือสีทาบ้าน เพราะจะยิ่งทำให้เจ็บคอมากขึ้น และปรับสภาพอากาศให้ชื้นขึ้นเล็กน้อย เช่น หาอ่างใส่น้ำมาวางบริเวณที่ร้อน หรือปลูกต้นไม้ในบ้าน เพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศที่แห้ง จะช่วย ให้เยื่อเมือกในช่องคอไม่แห้ง (เมื่อช่องคอแห้ง จะทำให้ระคายคอ และนอนไม่หลับ)

           3. แยกของใช้ส่วนตัว โดยเฉพาะแก้วน้ำ ช้อน จาน ชามออกจากผู้อื่น เวลาไอหรือจาม ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากและจมูกเสมอ

           4. ควรใช้เสียงให้น้อยลง เมื่ออาการเจ็บคอลุกลาม จนทำให้กล่องเสียงอักเสบ ซึ่งทำให้ระคายคอมากเวลาพูด หรือเสียงหายไปชั่วขณะ 
อีกทั้งควรพักผ่อนให้เพียงพอ และให้ความอบอุ่นกับร่างกายควรสวมเสื้อผ้าที่หนา ๆ ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

           5. ใช้ตัวช่วยบรรเทาอาการระคายคอ คือ การใช้สเปรย์สำหรับช่องปาก ที่มีส่วนผสมสารสกัดธรรมชาติของดอกคาโมมายล์และโพรพอลิส ซึ่งผลงานวิจัยพบว่า ช่วยลดการอักเสบ มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยลดอาการระคายเคืองในช่องปากและลำคอ ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ลำคอ เป็นวิธีในการดูแลบรรเทาอาการเจ็บคอที่ดีอีกวิธีหนึ่ง พกพาได้ง่าย ใช้สะดวก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ (ข้อมูลจาก ผลิตภัณฑ์ Flemomile)

           ถึงแม้ภาวะคออักเสบและอาการไอจะเกิดขึ้นได้ง่าย และไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากนัก แต่ก็สามารถสร้างความรำคาญให้กับผู้ป่วยได้นะคะ แต่ถ้าเราพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงควันและมลพิษต่าง ๆ ใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกไปอยู่ในที่ชุมชน พร้อมพกตัวช่วยดี ๆ ในการบรรเทาอาการระคายคอติดกระเป๋าไว้ เพียงเท่านี้ก็ทำให้เราห่างไกลจากโรคภัยต่าง ๆ ได้แล้วค่ะ

           มา “สุขใจเพราะเราเลือกดูแลกัน” ด้วยวิธีดูแลตนเองจากเจ็บคอ คออักเสบ ภาวะติดเชื้อ และเมื่อไอให้นึกถึงเฟลมเม็กซ์นะคะ

ข้อมูลจาก gedgoodlife